ต้นสนแผง
ข้อมูลพฤกษศาสตร์ชื่อวิทยาศาสตร์ : Thuja orientalis Endl.
ชื่อวงศ์ : CUPRESSACEAE
ชื่อสามัญ : Chimese Arborvitae, Orientali Arborvitae
ชื่อพื้นเมืองอื่นๆ : สนแผง สนหางสิงค์ สนมังกร
ถิ่นกำเนิด : เขตหนาวของจีนรวมถึงเกาหลีเหนือ มองโกเลียและบางส่วนของอิหร่าน
การกระจายพันธุ์ :
ในประเทศไทย มีการปลูกประดับทั่วไป
การขยายพันธุ์ : การตอนกิ่งและเพาะเมล็ด
การใช้ประโยชน์ :
ปลูกเป็นไม้ประดับ
เปลือกต้นทำให้ระดูขาวแห้ง
ใบแก้ปวดตามข้อ ลดไข้ ช่วยห้ามเลือด ตกเลือด ขับเสมหะ แก้ไอ ขับปัสสาวะ แผลผุพองจากน้ำร้อนและไฟไหม้
ลักษณะวิสัย : ไม้พุ่ม
เรือนยอด ทรงพุ่ม: รูปกรวย สูง 20 ม. กว้าง 1-2 ม.
ถิ่นอาศัย : เป็นพืชบก
ลักษณะลำต้น |
เป็นไม้พรรณยืนต้น แตกกิ่งก้านสาขามากมาย และลำต้นจะบิดเป็นเกลียว เปลือกต้นมีสีน้ำตาลอมแดง |
ลำต้นจะสูงต้มที่ ประมาณ 20 เซนติเมตร![]() |
ลักษณะใบ
ใบ :สีเขียวอ่อน
ลักษณะพิเศษของใบ:เป็นใบไม้ร่วมแตกออกเป็นเกล็ด เรียงติดกันแน่นกับกิ่งมีลักษณะเป็นแผง
การเรียงตัวของใบบนกิ่ง : ตรงข้ามสลับตั้งฉาก
รูปร่างแผ่นใบ : รูปเข็ม
ปลายใบ : ปลายใบแหลมเข็ม มีรยางค์แข็ง
โคนใบ : รูปตัด
ขอบใบ : เป็นแฉก
ลักษณะดอก
ดอกสนแผงออกดอกเดี่ยวตามง่ามใบ ดอกมีลักษณะเป็นรูปไข่ สีน้ำตาลอ่อน ดอกเพศผู้แล้วดอกเมียจะอยู่กันคนล
ดอก แต่อยู่บนต้นเดียวกัน โดยดอกเพศผู้จะมีก้านสั้นมาก ส่วนดอกเพศเมียไม่มีก้าน
ลักษณะผล
ผลมีลักษณะเป็นรูปกลมตั้งตรง ผลอ่อนฉ่ำน้ำ สีเขียวอมสีน้ำเงิน มีผงสีขาวปกคลุมอยู่ เมื่อแก่จะเป็นผลแห้ง มีสีน้ำตาลอมแดง และจะแตกออกเป็น 8 แฉก ภายในผลมีเมล็ดประมาณ 1-2 เมล็ด ลักษณะของเมล็ดเป็นรูปไข่สีน้ำตาลเข้มและมีสัน ในภาษาจีนจะเรียกเมล็ดสนแผงว่า “ไป่จื่อเหยิน"
สรรพคุณของต้นสนแผง
- ใบมีรสขมฝาด เป็นยาเย็น ออกฤทธิ์ต่อหัวใจ ลำไส้ใหญ่ และตับ ใช้เป็นยาทำให้เลือดเย็น แก้ร้อนในปอด
- เมล็ดมีรสหวานเผ็ด เป็นยาสุขุม ออกฤทธิ์ต่อหัวใจ ลำไส้ใหญ่ ตับ และไต ใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ ทำให้หัวใจชุ่มชื่น ช่วยทำให้จิตใจสบาย
- ใบมีสรรพคุณเป็นยาลดความดันโลหิต ด้วยการใช้ใบสด 15 กรัม นำมาชงกับน้ำดื่มแทนชา โดยดื่มจนกระทั่งความดันลดลง
- ผลใช้เป็นยากล่อมประสาทสำหรับผู้ที่หัวใจเต้นเร็วแล้วนอนไม่หลับ
- ใช้แก้ประสาทอ่อน นอนไม่หลับ หรือมีอาการตกใจง่าย ด้วยการใช้เมล็ดสนหางสิงห์ 12 กรัม, แหม่เกาติ๊ง 12 กรัม, เมล็ดพุทราจีนที่ผ่านการคั่วมาแล้ว 10 กรัม, หกเหล็ง 10 กรัม, และเอี่ยงจี่ 10 กรัม นำมารวมกันต้มกับน้ำรับประทาน
- ใบใช้เป็นยาแก้คางทูม โดยใช้ใบสดนำมาตำให้ละเอียด ผสมกับไข่ขาว แล้วนำมาพอกบริเวณที่เป็น และให้เปลี่ยนยาวันละ 2 ครั้ง
- ช่วยแก้อาการไอ และขับเสมหะ ด้วยการใช้ใบสด 30 กรัม และน้ำ 500 มิลลิลิตร นำมาชงเข้าด้วยกัน ใช้กินครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ วันละ 3-6 ครั้ง
- ตำรายาแก้หลอดลมอักเสบ และแก้อาการไอ ให้ใช้ใบนำมาบดให้เป็นผง ทำเป็นยาเม็ด เมล็ดละประมาณ 0.5 กรัม ใช้รับประทานครั้งละ 4 เม็ด วันละ 3 ครั้ง ต่อติดกันเป็นเวลา 10 วัน
- ใช้เป็นยาแก้บิดไม่มีตัว
- หากมีเลือดกำเดาไหล ให้ใช้ใบแห้งและดอกทับทิมแห้ง อย่างละเท่ากัน นำมาบดให้เป็นผงแล้วเป่าเข้าในจมูก
- ช่วยแก้อาเจียนเป็นเลือด
- ช่วยขับลมชื้น
- ช่วยแก้เด็กท้องร่วง ด้วยการใช้ใบสดประมาณ 5-10 กรัม นำมาต้มกับน้ำดื่ม
- เมล็ดมีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อน ๆ ใช้แก้อาการท้องผูก หรือจะใช้เมล็ดสนหางสิงห์ร่วมกับเมล็ดกัญชา อย่างละ 15 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทานก็ได้
- ผลใช้เป็นยาบรรเทาอาการลำไส้ตีบ
- ช่วยแก้บิดมูกเลือด แก้เลือดออกในกระเพาะและลำไส้
- ช่วยขับปัสสาวะ ด้วยการใช้ใบสด 30 กรัม และน้ำ 500 มิลลิลิตร นำมาชงเข้าด้วยกัน ใช้กินครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ วันละ 3-6 ครั้ง
- ช่วยแก้ปัสสาวะเป็นเลือด
- เปลือกต้นใช้ฝนเป็นยากวาดทวารเบา
- ใช้แก้ริดสีดวงทวารที่เลือดไหลไม่หยุด ด้วยการใช้ขี้เถ้าของใบนำมาชงกับน้ำกิน
- ช่วยขับระดูของสตรี
- ช่วยทำให้ดูระขาวแห้ง
- แก้ตกเลือด สตรีตกเลือด ให้ใช้ใบ 120 กรัม นำมาต้มกับน้ำ ใช้แบ่งรับประทานวันละ 3 ครั้ง
- เปลือกต้นมีสรรพคุณเป็นยาฝาดสมาน
- ใบใช้ยาห้ามเลือด ด้วยการใช้บดเป็นผงแล้วโรยใส่แผลเพื่อห้ามเลือด
- ช่วยรักษาแผลพุพอง แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก (บ้างว่ารักษาไฟลามทุ่งได้ด้วย) ด้วยการใช้ใบสดนำมาตำให้ละเอียดแล้วใส่น้ำผสมลงไป คนจนเหนียวเป็นยาง แล้วใช้พอกบริเวณที่เป็น
- ช่วยแก้อาการข้อ
หมายเหตุ : วิธีใช้ตาม [2] ใบและเมล็ด ให้ใช้ครั้งละ 6-15 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทา หรือจะใช้ร่มกับตัวยาอื่น ๆ ในตำรับยาก็ได้
วีดีโอเกี่ยวข้อง
อ้างอิง
https://mynameistamin.wordpress.com
http://frynn.com/
https://sites.google.com/
http://www.shc.ac.th/learning/botanical-garden/213.htm
https://www.youtube.com/watch?v=FcRE18EY260
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น